ประเพณีแห่นาคโหด
การแห่นาคบนแคร่ไม้ไผ่นี้เป็นเหมือนบททดสอบความอดทนของลูกผู้ชายที่จะมาบวชเพื่อทดแทนพระคุณของแม่
ผู้ที่ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดเมื่อครั้งคลอดลูกและยังต้องทรมานกับอยู่ไฟบนแคร่ไม้ไผ่อีก ฉะนั้น
นาคที่นี่จะต้องนั่งบนแคร่ไม้ไผ่และถูกหามแห่ไปรอบๆหมู่บ้านเพื่อให้ทราบถึงความยากลำบากของแม่ในการคลอดลูก โดยได้ปฏิบัติสืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน ต่อมาในปี 2514 นาคในปีนั้นชื่อนายโอด ขวัญกล้า และนายนิรันดร ขวัญยืน ทั้งสองเป็นชายหนุ่มที่ชอบสนุกสนาน จึงให้คนหามโยนนาคแรงๆ ต่อมาจึงได้กลายเป็นประเพณีแห่นาคโหด ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หนึ่งเดียวของโลก
นาคที่นี่จะต้องนั่งบนแคร่ไม้ไผ่และถูกหามแห่ไปรอบๆหมู่บ้านเพื่อให้ทราบถึงความยากลำบากของแม่ในการคลอดลูก โดยได้ปฏิบัติสืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน ต่อมาในปี 2514 นาคในปีนั้นชื่อนายโอด ขวัญกล้า และนายนิรันดร ขวัญยืน ทั้งสองเป็นชายหนุ่มที่ชอบสนุกสนาน จึงให้คนหามโยนนาคแรงๆ ต่อมาจึงได้กลายเป็นประเพณีแห่นาคโหด ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หนึ่งเดียวของโลก
ความสำคัญ
ประเพณีอุปสมบทถือว่าเป็นประเพณีอันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยทุกคนควรทำนุบำรุง และรักษาไว้ให้อยู่คู่ประเทศไทย
และงานประเพณีอุปสมบทหมู่แห่นาคโหดของชุมชนบ้านโนนเสลา ตำบลหนองตูม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
เป็นงานอุปสมบทที่ยึดถือตามแนวประเพณีอุปสมบทซึ่งมีอยู่ทั่วทุกท้องถิ่นไทย
และยังเป็นประเพณีที่แปลกโดยเฉพาะวิธีการแห่นาคที่สะท้อนถึงงานประเพณีที่สอดแทรกกุศโลบายและความสนุกสนานทำให้ชาวบ้านมีความสมัครสมานสามัคคีกัน
ประเพณีอุปสมบทหมู่
บ้านโนนเสลามีลักษณะและสาระสำคัญเหมือนกับประเพณีอุปสมบททั่วไป
จะมีความแตกต่างบ้างเล็กน้อยเกี่ยวกับรายละเอียด โดดเด่นคือ การแห่นาค โดยจะมีวิธีการแตกต่างจากที่อื่น
เพราะใช้วิธีการที่ค่อนข้างรุนแรง หรือที่เรียกกันว่า “โหด”
และเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า “แห่นาคโหด” ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า
ประเพณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด แต่มีความเชื่อว่า เกิดขึ้นตั้งแต่โบราณพร้อม ๆ
กับการก่อตั้งหมู่บ้านมาหลายร้อยปี เพราะประชาชนในหมู่บ้านเป็นพุทธศาสนิกชน
และการบวชเป็นวิถีของชาวพุทธทุกคน และมีการปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างจริงจังมากขึ้นตั้งแต่ปี
๒๕๖๐ มาจนถึงปัจจุบัน
ประเพณี/พิธีกรรม
ลูกหลานที่จะบวชแทนคุณบิดามารดา ซึ่งมีความประสงค์บวชเอง จะมีการเตรียมตัวมาตั้งแต่เดือนสี่
ผู้เป็นบิดาจะพาบุตรชายไปฝากไว้กับเจ้าอาวาส ใน ๒ วัดของหมู่บ้านโนนเสลา
คือวัดบุญถนอมพัฒนาราม(วัดนอก) และวัดตาแขก(วัดใน) เพื่อถือขัน ๕ ประกอบด้วยเทียน ๕
คู่ ดอกไม้ ๕ คู่ ไปฝากตัวเป็นนาคปฏิบัติธรรมถือศีล ๘ อยู่ที่วัด
เรียนรู้บทสวดที่จะบวช และเรียนรู้พระธรรมวินัยเบื้องต้น
ก่อนถึงกำหนดวันบวชของประเพณีแห่นาคโหดในวันขึ้น 1 ค่ำ แรม 15 ค่ำ ของเดือนหกเป็นประจำของทุกปี
กิจกรรมในการปฏิบัติ
ตอนเช้า - พิธีการตัดและโกนผมนาคตามพิธีบวชปกติ
แต่ก่อนจะเข้าพิธีสู่ขวัญนาคทุกคนจะต้องพากันออกจากวัดไป
กราบศาลปู่ตาซึ่งเป็นศาลประจำหมู่บ้าน
- ถวายภัตตาหารพระสงฆ์
- นาค รวมกันที่วัด ตั้งกองบวช
- รับฟังการประวัติความเป็นมาจากปราชญ์ชาวบ้านและผู้รู้ในชุมชนโดนเสลา
เกี่ยวกับงานแห่นาคโหด
ตอนบ่าย - พิธีบายศรีสู่ขวัญนาค
- ตั้งขบวนวัฒนธรรม
- ขบวนแห่นาคโหดเริ่มต้น โดยการแห่ไปรอบๆหมู่บ้าน
จนถึงวัด
ตอนเย็น -
เจริญพุทธมนต์เย็น
-
เสร็จสิ้นพิธีการ / มหรสพตลอดคืน
ก่อนถึงวันงานพ่อนาคแม่นาคแต่ละวัดและกรรมการหมู่บ้านก็จะตกลงกันว่าปีนี้จะจ้างมหรสพ
จะเอาภาพยนตร์ หรือหมอลำคณะไหน
เสร็จแล้วก็จะเตรียมงานหาอาหาร สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือขนมจีน สมัยนั้นจะไม่มีโรงงานทำขนมจีนญาติพี่น้องต้องเอาข้าวสารจ้าวไปหมักก่อนวันงานสามวัน
ส่วนแม่นาคก็จะเดินทางไปบอกญาติพี่น้องตามหมู่บ้านว่าจะบวชให้ลูกชาย ญาติพี่น้องต่างก็จะแสดงความยินดีกับเจ้าภาพที่ลูกชายจะบวช จากนั้นวันงานญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้าน
ที่ไปทำงานต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพฯ จะเดินทางมาร่วมงาน วันงานนาคทุกองค์ก็จะมารวมกันที่วัดและมีพิธีการสู่ขวัญโดยหมอขวัญ
ซึ่งเป็นการเรียกขวัญให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว และพรรณนาถึงพระคุณของแม่
ว่าการที่แม่อุ้มท้องอยู่ ๙ เดือนนั้นแม่มีความทุกข์ยากลำบากขนาดไหน แม่ต้องอดอาหาร
แม่อยากจะกินน้ำพริกก็เป็นห่วงลูกที่อยู่ในท้อง ตลอดระยะเวลา ๙ เดือน
วันที่แม่ต้องการคือวันนี้วันที่แม่ได้บวชลูก
แม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์ เมื่อนาครู้ถึงความยากลำบากของแม่
นาคบางองค์ขณะที่หมอสู่ขวัญก็จะน้ำตาไหลร้องไห้ซาบซึ้งถึงบุญของแม่ เมื่อสู่ขวัญเสร็จแล้วก็จะขึ้นคานหามแห่รอบหมู่บ้านระยะทางประมาณ
๒ กิโลเมตร ใช้เวลานานประมาณ ๔ ชั่วโมง ขณะที่แห่จะใช้กลองยาวรำมะนามาตี
การแห่ก็จะมีเพื่อน ญาติ ฟ้อนรำไปตามจังหวะเสียงดนตรี
และในระหว่างทางก็จะมีการโยนนาคไปตามจังหวะเสียงกลอง และญาติพี่น้องก็จะคอยรับเพราะกลัวนาคตก
หากนาคตกถึงพื้นหรือเลือดออกจะบวชไม่ได้
ประโยชน์และคุณค่าที่ได้รับ
ทำให้ลูกหลานในหมู่บ้านได้ตอบแทนพระคุณบิดามารดา
ชาวบ้าน ญาติพี่น้องที่อยู่ต่างหมู่บ้านได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุยกัน ได้ทำงานร่วมกัน
ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคีของชาวบ้านทั้งในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง เป็นการเผยแพร่ประเพณีท้องถิ่นของตนเองเพื่อที่จะให้คนอื่นรับรู้ถือเป็นการเชิญชวนให้มาเที่ยวมาชม
อีกทั้งยังเป็นการรักษาประเพณีที่สำคัญของพระพุทธศาสนา
ที่พุทธฑศาสนิกชนควรที่รักษาไว้อีกด้วย
ซึ่งถือว่าคนรุ่นหนุ่มสมัยอดีต
จะเป็นการปฏิบัติต่อกันรุ่นต่อรุ่นนั้นรุ่นนี้แห่กัน คนหามโหด
เมื่อมาเจอคิวบวชของตนเองรุ่นน้องก็โหดต่อกันมาเรื่อย ๆเป็นรุ่น ๆกันไป
ตามประสาคนหนุ่มในหมู่บ้านขณะที่นายสนิท ศรีบุดดา ไวยาวัจกรวัดตาแขก กล่าวว่า
การจัดอุปสมบทหมู่ของหมู่บ้านจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี หรือแห่นาคโหด
ถือว่าเป็นการสะท้อนถึงความอดทน อดกลั้นของผู้ที่จะเข้าบวชแทนคุณบิดามารดาที่ให้กำเนิดมา
และชาวบ้านที่นี่อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังสืบทอดต่อไปเป็นประจำทุกปี
ซึ่งอาจจะมีการมองว่ามีความรุนแรง แต่ชาวบ้านคนหนุ่มที่นี่กลับมองว่าเพื่อการแสดงถึงความกตัญญูกตเวที
ต่อบิดามารดา การได้รู้จักการอดกลั้นความตั้งใจของผู้บวชเองมากกว่า
สำหรับครอบครัวที่มีบุตรชาย
เยาวชนในหมู่บ้านมีความคิดและค่านิยมว่า “เกิดมาเป็น เด็กโนน-เสลา ถ้าเป็นผู้ชายต้องผ่านคานหามทุกคน
ใครไม่ผ่านคานหามก็ไม่ใช่เด็กโนนเสลา”
ประเพณี"แห่นาคโหด" จึงเป็นด่านสำคัญที่สุดในชีวิตลูกผู้ชาย
และความท้าทายคนหนุ่มในหมู่บ้านที่มีอายุครบบวชต้องเผชิญสำหรับคนหนุ่มในหมู่บ้าน
ก่อนจะได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ซึ่งไม่มีหนุ่มคนไหนในหมู่บ้านกล้าปฏิเสธ
ที่จะไม่ผ่านประเพณีนี้
และหากใครปฏิเสธก็จะถูกตราหน้าว่า "บ่ใจ" หมายความว่า ใจไม่กล้า จึงเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายใจนักเลงด้วย
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น